10 เมืองน่าเที่ยว

10 เมืองน่าเที่ยว คัดมาแล้วว่าสวยปัง ประเทศในฝันที่ต้องไปสักครั้ง

10 เมืองน่าเที่ยว คัดมาแล้วว่าสวยปัง ประเทศในฝันที่ต้องไปสักครั้ง

10 เมืองน่าเที่ยว ในแต่ละประเทศทั่วโลก ล้วนมีเมืองสวยงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนจำนวนไม่น้อย แต่ละเมืองล้วนมีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ทั้งความงามของธรรมชาติ สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือน และวิถีชีวิตผู้คน  เมืองที่สวยงาม ราวกับภาพในฝัน โลกในนิทาน เมืองที่นักเดินทางใฝ่ฝันว่าครั้งหนึ่งต้องได้มาเยือนสักครั้ง

แป๊บเดียวใกล้จะสิ้นปีอีกแล้ว ใครวางแผนเตรียม เที่ยวต่างประเทศ ปีหน้าอยู่ ถ้าคุณกำลังอยากไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงนี้ บอกเลยว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว เพราะหลายประเทศได้มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปได้แล้ว แต่สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือเอกสาร หรือเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ต้องเตรียม นั่นก็คือ วีซ่า (Visa) ต้องพร้อม แล้วถ้าคุณมีทุกอย่างพร้อมแล้ว แต่ยังไม่มีไอเดียว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี วันนี้เราเลยจะพาคุณมา ชมเมืองสวย ๆ จากทั่วโลก เผื่อว่าจะได้เป็นไอเดียสำหรับการเดินทางไปเที่ยวในครั้งนี้ เปิดปฏิทินมองหาวันหยุดยาว ลงวันพักร้อน เลือกจุดหมายปลายทาง จากลิสต์ 10 เมืองน่าเที่ยวของเรา

1. เมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ออสเตรีย (Austria)

เมืองสุดโรแมนติกแห่งออสเตรีย และเป็นเมืองมรดกโลกที่อยู่ในอ้อมกอดของเทือกเขาแอลป์ บนภูเขากลางเมืองเป็นที่ตั้งของป้อมปราการโฮเฮนซาลซ์บูร์ก (Hohensalzburg) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปราการที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ด้วยความที่เป็นเมืองบ้านเกิดของ “โมสาร์ท” (Mozart) คีตกวีเอกของโลก ที่นี่มีกิจกรรมทางดนตรีมากมายให้ชมฟรีๆ ถูกใจผู้ที่มีดนตรีกาลในหัวใจยิ่งนัก

 

2. เมืองมาราเกช (Marrakech) โมรอกโค (Morocco)

เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเชิงเขาแอตลาส ในอดีตเมืองโอเอซิสนี้เป็นที่พักของกองคาราวานอูฐที่มาจากทางตอนใต้ของโมรอคโค เป็นชุมทางของพ่อค้าต่างๆ ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด สภาพบ้านเมืองที่เราเห็นได้คือทางเดินที่ทอดตัวยาวสองข้างทางแวดล้อมด้วยบ้านเรือนที่ถูกฉาบด้วยปูนสีส้มๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำหนดไว้ แต่คนท้องถิ่นจะเรียกว่า Pink City หรือ เมืองสีชมพู อาจกล่าวได้ว่ามาราเกชเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง

มาราเกช เมืองหลวงแห่งการท่องเที่ยวของโมร็อคโค ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองเฟซ คนทั่วโลกมักรู้จักเมืองมาราเกชมากกว่าประเทศโมร็อคโค ด้วยความที่ว่าเมืองนี้เป็นเมืองต้นตำรับของการบุกเบิกการท่องเที่ยวในอัฟริกาเหนือในยุค 1960 ของบรรดาฮิปปี้ (เพลง Marrakech Express ของ Crosby, Stills and Nash ที่ออกในปี 1969) และเป็นเมืองที่คนมาท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และเป็นเมืองที่ให้ความรู้สึกลึกลับชวนพิศวงตามสไตล์การเที่ยวโมร็อคโค แต่ก็เต็มไปด้วยความเก๋เท่ และงานศิลปะมากมายจากศิลปินทั่วโลกที่มาตั้งรกรากที่นี่ ทำให้เมืองนี้ ลวดลายศิลปะเฉพาะของที่นี่เป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก

เมืองน่าเที่ยวชื่อดังเชิงเขาแอตลาส ในอดีตเมืองโอเอซิสแห่งนี้เป็นชุมทางของเหล่ากองคาราวานพ่อค้า มีจุดเด่นอยู่ที่ทางเดินที่ทอดตัวยาว สองข้างทางแวดล้อมด้วยบ้านเรือนที่ถูกฉาบด้วยปูนสีส้มๆ ที่คนท้องถิ่นจะเรียกว่า “Pink City” หรือ “เมืองสีชมพู” ที่มี “พระราชวังบาเฮีย” (Bahia Palace) เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ และมี “มัสยิดคูตูเบีย” (Koutoubia Mosque) และ “สวนเมนารา” (Menara Garden) เป็นจุดปักหมุดยอดนิยม

 

3. มัลดีฟส์ (Maldives) สาธารณรัฐมัลดีฟ (Republic of Maldives)

หมู่เกาะแห่งมหาสมุทรอินเดียที่สวยสุดๆ และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนจองตั๋วเครื่องบินไปมัลดีฟส์ ไปสัมผัสวิวทะเลสวยน้ำใส หาดงาม บรรยากาศสุดโรแมนติก และเยี่ยมชมเมืองหลวงของมัลดีฟส์บนเกาะมาเล่ (Male Island) ซึ่งมีจุดปักหมุดห้ามพลาดอย่างเช่น “พระราชวังสุลต่าน” (Mulee Aage Palace) ) ซึ่งปัจจุบันคือทำเนียบประธานาธิบดี “มัสยิดวันศุกร์” (Old Friday Mosque) หรือมัสยิดหินปะการังที่แปลกไม่เหมือนใคร

 

4. เมืองสกาเกน (Skagen) เดนมาร์ก (Denmark)

“สกาเกน” เป็นหนึ่งในเมืองน่าเที่ยวของเดนมาร์ก ตั้งอยู่เหนือสุดของคาบสมุทรจัตแลนด์ เป็นจุดที่ทะเลสแกเกอร์แรก (Skagerrak) และทะเลคัตเทกัต (Kattegat) มาบรรจบกันที่แหลมเกรเนน (Cape Grenane) เป็นทิวทัศน์สวยงาม และมีหาดทรายกว้างขาวสะอาด สวยงามสุดๆ มี “Skagen Gray Lighthouse” (หรือ “ประภาคารสีเทาแห่งสกาเกน” ประภาคารที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศเป็นแลนด์มาร์ก ที่นี่ยังขึ้นชื่อด้านการจับปลาแฮริงอีกด้วย

 

5. เมืองกอลมาร์ (Colmar) ฝรั่งเศส (France)

เมืองน่าเที่ยวของฝรั่งเศส บ้านเกิดของประติมากรผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพของอเมริกา มีแม่น้ำ และคลองพาดผ่านตัวเมือง จึงมีฉายาว่า “Little Venice” หรือ “เวนิสแห่งฝรั่งเศส” ในย่านนี้นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศส จะได้ล่องเรือชมทัศนียภาพอันสวยงามของบ้านเรือนสไตล์ฮาล์ฟทิมเบอร์ เมืองแห่งนี้ยังมีไร่องุ่นมากมายและแหล่งผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมจนถูกเรียกว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งไวน์แห่งอาลซัส” (Capital of Alsace Wine) ด้วย

 

10 เมืองน่าเที่ยว

6. เมืองเรคยาวิก (Reykjavik)ไอซ์แลนด์ ( Iceland )

เมืองหลวงในคาบสมุทรเซลท์ยานาร์เนส (Seltjarnarnes Peninsula) ที่เต็มไปด้วยสีสัน และอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด ที่นี่จึงจุดล่าแสงเหนือห้ามพลาดอย่างแรง นอกจากนี้ยังที่เที่ยวยอดนิยมอย่างเช่น “โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา” (Hallgrímskirkja) โบสถ์รูปทรงแปลกตา และ “ฮาร์ปา” (Harpa) ศูนย์ประชุมสุดเดิร์นที่ตั้งโดดเด่นอยู่ริมมหาสมุทร

 

10 เมืองน่าเที่ยว

7. เมืองเชสเตอร์ (Chester) เวลส์ (Wales)

เมืองเก่าแก่เล็กๆ จากยุคโรมันและไวกิ้ง เอกลักษณ์ของที่นี่คือสถาปัตยกรรมแบบทิวดอร์ในโทนสีขาวดำของอาคารและบ้านเรือน มีหอนาฬิกาอีสต์เกท (Eastgate Clock) เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามมากมาย และยังมี “มหาวิหารเชสเตอร์” (Chester Cathedral) ที่สุดอลังการอายุกว่าพันปี มีกำแพงเมืองโบราณ (Chester City Wallฉ๙) ที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของอังกฤษเช่นเดียวกับ “สวนสัตว์เชสเตอร์” (Chester Zoo) 1 ใน 10 สวนสัตว์ที่ดีที่สุดในโลก

 

8. เมืองทรอมโซ (Tromso) นอร์เวย์ (Norway)

เมืองทรอมโซแห่งนอร์เวย์ เมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามราวภาพวาด ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติก นักท่องเที่ยวต่างพากันจองตั๋วเครื่องบินไปนอร์เวย์ เพื่อชมความงดงามของเเสงเหนือเเละพระอาทิตย์เที่ยงคืน ในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนมีนาคม ที่นี่ยังมีเรือให้บริการพาไปทัวร์ชมปลาวาฬหลังค่อมในท้องทะเลอันงดงามอีกด้วย

 

10 เมืองน่าเที่ยว

9. เมืองกรานาดา (Granada) สเปน (Spain)

“กรานาดา” เมืองใต้สุดของสเปน ที่มีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น อย่างเช่น “พระราชวังอาลัมบรา” (Alhambra Palace) พิพิธภัณฑ์แห่งสถาปัตยกรรมมุสลิมกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “วิหารกรานาด้า” (Granada Cathedral) มหาวิหารใหญ่อันดับ 4 ของโลก นักช้อปต้องแวะแหล่งช้อปปิ้งในย่านสตีทมาเก็ต (Street Market) ซึ่งจะเปิดสัปดาห์ละ 1 วันเท่านั้น

 

10 เมืองน่าเที่ยว

10. กรุงโรม (Rome) อิตาลี (Italy)

กรุงโรม อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรโรมัน ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “เมืองอันเป็นนิรันดร์” (Eternal City) มีสถาปัตย์ที่โดดเด่นให้ให้ผู้คนได้ชื่นชมจนถึงปัจจุบัน จุดปักหมุดสำคัญคือ “โคลอสเซียม” (Colosseum) อัฒจันทร์โบราณลานประลองฝีมือของเหล่านักรบกลาดิเอเตอร์ ไม่ไกลกันมี “โรมันฟอรัม” (Roman Forum) ศูนย์กลางการปกครอง ที่มีวิหารบูชาเทพเจ้ารายล้อม และยังมีบ้านของกษัตริย์ออกัสตัส ให้ได้ชมอีกด้วย นอกจากนั้นยังมี อนุสรณ์สถานแห่งชาติวิกเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 (Victor Emmanuel II National Museum) หรือ อิล วิตโตริอาโน (Il Vittoriano) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของกรุงโรมที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่แก่กษัตริย์องค์แรกของประเทศอิตาลี โดยด้านบนสุดของอาคารอนุสรณ์สถานนั้นมีโดมแก้วอยู่ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของกรุงโรมได้โดยรอบ

ติดตามเว็บไซต์น่าสนใจเพิ่มเติม : ดูหนังออนไลน์ , แทงบอลโลก

อ่านบทความเพิ่มเติม > เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์