เขื่อนน่าเที่ยว สัมผัสบรรยากาศดีของธรรมชาติ จุดถ่ายรูปสวย หลบลมร้อน

ชิลไปไหน : 5 ที่พักเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เชียงใหม่ ไปนอนแพ กระโดดน้ำ ท่ามกลางขุนเขา - ชิลไปไหน

เขื่อนน่าเที่ยว เขื่อนแม่งัด สัมผัสบรรยากาศดีของธรรมชาติ จุดถ่ายรูปสวย

วันนี้ Travel2review ขอพาทุกท่านไปเที่ยวลงเขื่อน เขื่อนน่าเที่ยว สำหรับเขื่อนสวย ๆ ในประเทศไทย ก็มีหลากหลายที่ ซึ่งไปแต่ละที่ก็มักจะได้เจอหมอก และได้สัมผัสอากาศหนาวเช่นกัน แถมยังได้พายเรือเล่น ท่ามกลางธรรมชาติ ปลายฝนตนหนาว บอกลเยว่า ฟินมาก ๆ รับรองว่าเที่ยวเขื่อน ก็ฟินไม่น้อยกว่าการขึ้นไปเที่ยวบนดอยเลย เผื่อว่าใครเบื่อ ๆ การเที่ยวดอยแล้ว ก็หันมาเที่ยวเขื่อนกันบ้าง

เขื่อนแม่งัดจังหวัดเชียงใหม่ หรือในอีกชื่อคือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล หนึ่งในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา เป็นเขื่อนตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะอยู่ห่างจาก อ.เมืองเชียงใหม่ประมาณ 50 กิโลเมตร เขื่อนนี้สร้างขึ้น ส่งน้ำหล่อเลี้ยงพื้นที่เพาะปลูกในที่ราบเชิงเขาทั้งสองฝั่งของลำน้ำแม่งัด ช่วยบรรเทาอุทกภัยในเขตลุ่มน้ำปิง โดยเฉพาะบรรเทาน้ำหลากเข้าท่วมตัวเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำอีกด้วย

เขื่อนแม่งัด นอกจากเป็นเขื่อนที่ใช้เพื่อประโยชน์ในด้านการชลประทานแล้ว ด้วยวิวของเขื่อนที่สวยมากกก โอบล้อมด้วยภูเขาสีเขียวสวย เขื่อนแม่งัดจึงกลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตอีกที่ที่คนรักธรรมชาติ และต้องการพักผ่อนแบบสงบ ท่ามกลางสายน้ำ พายเรือเล่น ดูหมอก มองเขา ต้องมาที่เขื่อนนี้กันค่ะ

การเดินทางไปเขื่อนแม่งัด จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง ผ่านอำเภอแม่ริม และอำเภอแม่แตง ผ่านที่ว่าการอำเภอแม่แตง (อยู่ซ้ายมือ) จะเจอสามแยกไฟแดงให้เลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อย ๆ จะมีป้ายบอกทางเขื่อนแม่งัดเป็นระยะ เมื่อไปถึงทางเข้าเขื่อน ซึ่งเป็นจุดลงแพ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะไปลงแพไหน

โดยเสียค่าธรรมเนียมอัตราเดียวกับค่าเข้าอุทยานฯ ผู้ใหญ่คนไทย คนละ 20 บาท ค่ารถคันละ 30 บาท หากพักที่แพไหน ให้แจ้งทางที่พักให้นำเรือมารับบริเวณท่าเรือได้เลยค่ะ โดยค่าเรือหากไม่ได้เหมาเป็นแพคเกจจะอยู่ที่ลำละ 600 บาท ราคารวมไป-กลับ นั่งได้ไม่เกิน 6 คน

เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนที่มีขนาดใหญ่มาก

เขื่อนรัชชประภา หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนที่มีขนาดใหญ่ มีภูเขาหินปูนสูงใหญ่ สลับทับซ้อน เหมือนกับภาพวาดหุบเขาในเมืองจีน จนได้รับฉายาว่าเป็น กุ้ยหลินเมืองไทย เขื่อนรัชชประภาเป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อก่อนสร้างแล้วเสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”

เขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ถือเป็นเขื่อนยอดนิยมลำดับต้น ๆ ในเมืองไทย เพราะเป็นหนึ่งในเขื่อนที่สวยงามที่สุด ในของเมืองไทย น้ำสีเขียวมรกตใสสะกดตา ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่าง ก็อยากมาเห็นด้วยตาตัวเอง เพราะแบบนี้แค่ภาพถ่ายทางอินเตอร์คงยังไม่ฟิน อยากอินคงต้องมาสัมผัสความสวยของเขื่อนเชี่ยวหลานด้วยตัวเองสักครั้งแล้ว

สำหรับ การเดินทางไปเขื่อนรัชชประภา โดยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ขับผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จนเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขับมาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 จนถึงแยกอำเภอพุนพิน ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 401 ขับไปเรื่อย ๆ จะมีป้ายบอกทางไปเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)

จากสนามบิน สุราษฎร์ธานี นักท่องเที่ยวสามารถเช่าแท็กซี่มาได้เลย หรือนั่ง Airport Bus เข้าไปที่ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี จากนั้นให้ต่อรถตู้บริเวณตลาดเกษตร 2 ไปที่เขื่อนรัชชประภา มาโดยรถไฟ ให้ลงที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี แล้วต่อรถบัสที่ให้บริการเส้นทาง สุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต เพื่อไปลงที่ปากทางเข้าเขื่อนรัชชประภา

เขื่อนน่าเที่ยว

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี เขื่อนน่าเที่ยว กักเก็บน้ำที่ใหญ่ ยาว ลึก ที่สุดในประเทศไทย

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นเขื่อนแกนดินเหนียว ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ด้วยความยาว 4,860 เมตร ได้สร้างขึ้นภายใต้โครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำป่าสักเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม ในรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานนามเขื่อนแห่งนี้ว่า “เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” หมายถึง “เขื่อนแม่น้ำป่าสักที่เก็บกักน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

เสน่ห์ของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ก็คือ การนั่งรถไฟไปตามแนวสันเขื่อนมองเห็นวิวแม่น้ำ ขุนเขา และน้ำในเขื่อนที่กว้างใหญ่อลังการด้วยระยะทางไป – กลับกว่า 10 กิโลเมตร และยังสามารถนั่งไปสักการะหลวงปู่ใหญ่ป่าสักชลสิทธิ์ หรือพระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์มงคลชัย โดยรถไฟสายนี้จะเปิดให้บริการในช่วงเทศกาลการท่องเที่ยว ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศก็กำลังดี เดินทางง่าย สบาย อีกด้วย

การเดินทางไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดสระบุรี จากนั้นเลี้ยวขวา เข้าถนนหมายเลข 21 ถนนสระบุรี-หล่มสัก เข้าสู่จังหวัดลพบุรี ระยะทางประมาณ 21 กม. ให้เลี้ยวขวาไปถนนหมายเลข 3017 ไปทาง อ.พัฒนานิคม ระยะทางอีกประมาณ 16 กม. ถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

เขื่อนน่าเที่ยว

เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เป็นเขื่อนที่กั้นน้ำปิงระหว่างเขาแก้ว สวยงามมาก ๆ

เขื่อนภูมิพล เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เขื่อนยันฮี เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรก และเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยเลยค่ะ ตั้งอยู่ที่อำเภอสามเงา จังหวัดตาก สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำให้แก่เกษตรกร ทั้งยังเป็นแหล่งสร้างพลังงานไฟฟ้า ที่ใหญ่มากท่ามกลางขุนเขา ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานได้พระราชทานพระปรมาภิไธยให้เป็นชื่อเขื่อนว่า “เขื่อนภูมิพล” เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 และในหลวงได้ทรงมาวางศิลากฤษ์เมื่อปี พ.ศ.2504 และดำเนินเสร็จเมื่อปี 2507 ถือเป็นเขื่อนโค้งที่สูงติดอันดับที่ 27 ของโลกเลยค่ะ

เขื่อนภูมิพลถือเป็นจุดชมวิวมองเห็นทิวเขา เดินเล่นชมวิวริมสันเขื่อน ล่องแพในอ่างเก็บน้ำ หรือเดินป่าศึกษาธรรมชาติสองฝั่งลำน้ำปิง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ตื่น เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวติดอันดับเขื่อนที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิตเลยนะ

การเดินทางไปเขื่อนภูมิพล ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) แยกซ้ายที่วังน้อย เข้าทางหลวงหมายเลข 32 สายบางปะอิน-นครสวรรค์ ผ่านจังหวัดกำแพงเพชรแล้วตรงเข้าจังหวัดตาก และจากตัวเมืองไปยังเขื่อนภูมิพลเป็นระยะทางอีก 61 กิโลเมตร โดยเส้นทางที่สะดวกและนิยมใช้กันคือ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ถึงกิโลเมตรที่ 463 จะมีทางแยกซ้ายเข้าเขื่อนภูมิพล ประมาณ 17 กิโลเมตร หรืออาจใช้เส้นทางหมายเลข 1107 ผ่านทางแยกไปเจดีย์ยุทธหัตถีอีก 25 กิโลเมตร

เขื่อนน่าเที่ยว

เขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนน่าเที่ยว จังหวัดเพชรบุรี ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ รับความสดชื่น

เขื่อนแก่งกระจาน หรืออ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่มหึมา อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นเขื่อนดินกั้นแม่น้ำเพชรบุรีมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เก็บกักน้ำซึ่งช่วยแก้ปัญหาการการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ตั้งแต่ปากอ่าวเพชรบุรีจนถึงหัวหิน

เขื่อนแก่งกระจาน มีที่พักให้เลือกมากมาย เพราะว่าที่นี่เหมาะกับการมาพักเที่ยวมีทั้งตกปลา ชมวิวเขื่อน กิจกรรมธรรมชาติสำหรับนักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์ และไฮไลท์ก็คือการชมแสงสวย ๆ ยามเย็นบริเวณเหนือสันเขื่อน และจุดชมหมอกยามเช้า กับบรรยากาศฟิน ๆ เป็นอีกหนึ่งเขื่อนสวยเว่อร์วังที่ต้องมากันให้ได้เลย

การเดินทางไปเขื่อนแก่งกระจาน ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี เข้าสู่เขตจังหวัดเพชรบุรี หรือจะเดินทางไปตามถนนพระราม 2 (ถนนธนบุรี-ปากท่อ) ถึงสามแยกวังมะนาวให้เลี้ยวซ้ายก็จะเข้าสู่เขตจังหวัดเพชรบุรี

จากนั้นมีหลายเส้นทางที่ไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้ คุณสามารถเลือกใช้ทางหลวงหมายเลข 3349 ทางไปอำเภอหนองหญ้าปล้อง แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 3499 ก็ได้ หรือขับรถเลยตัวเมืองเพชรบุรีมาจนถึงอำเภอท่ายาง เมื่อถึงสี่แยกเขื่อนเพชร ให้เลี้ยวขวาตามทางหลวงสายท่ายาง-แก่งกระจาน ผ่านที่ว่าการอำเภอแก่งกระจาน เลียบถนนขอบอ่างจากตัวเขื่อนไปอีก 2 กิโลเมตร ก็ถึงแล้ว

ติดตามเว็บไซต์น่าสนใจเพิ่มเติม : ดูซีรี่ย์

อ่านบทความเพิ่มเติม > น้ำตกมาดาคารีปุระ