“ที่เที่ยวออสเตรีย” ทำความรู้จักกับ ประเทศออสเตรียดินแดนโรแมนติกใจกลางยุโรป
เชื่อว่าหลายคนต่างก็มีคำถามถึงประเทศในฝันที่อยากไปเยือนมากที่สุด แน่นอนว่า ที่เที่ยวออสเตรีย ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ซึ่งไม่แปลกใจเลยเพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เต็มไปด้วยธรรมชาติป่าไม้สะุดตา แถมไปฤดูไหนก็สวยทุกฤดูไม่มีดรอป แต่ก่อนจะออกเดินทาง ในวันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ ที่เที่ยวออสเตรีย ปักหมุดแลนด์มาร์คสวย ๆ เอาไว้ เผื่อว่าวันไหนคุณอยากจะเดินทางไปสักครั้งหนึ่งจะได้เก็บครบทุกเม็ด
แต่ก่อนอื่นเราขอพาคุณมาทำความรู้จักกับ ประเทศออสเตรียดินแดนโรแมนติกใจกลางยุโรป นี้ก่อน ออสเตรีย เป็นอีกหนึ่งเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่แสนจะโรแมนติกและมีความงดงามอยู่ในตัว ด้วยมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกเที่ยวได้หลากหลายสไตล์ ทั้งธรรมชาติ และสิ่งก่อสร้างที่ถูกออกแบบมาด้วยงานศิลปะหลากหลายสมัย ทำให้กลายเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงาม โดยเฉพาะปราสาทต่าง ๆ ที่มีความโดดเด่นและสวยงามราวกับภาพวาด และวัฒนธรรมที่หลากหลาย
ที่ต่างก็ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่ออสเตรียตลอดเวลา ประเทศออสเตรีย หรือ สาธารณรัฐออสเตรีย เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในยุโรปกลาง และมีอาณาเขตทางเหนือจรดประเทศเยอรมนีและสาธารณรัฐเช็ก ทางใต้จรดสโลวีเนียและอิตาลี ส่วนทางตะวันออกจรดสโลวาเกียและฮังการี และทางตะวันตกจรดสวิตเซอร์แลนด์และลิกเตนสไตน์
สภาพภูมิประเทศของประเทศออสเตรียมีลักษณะเป็นภูเขาและเนินเขา หลายประเทศเรียกดินแดนนี้ว่าเป็นดินแดนแห่งขุนเขา ซึ่งมีการพาดผ่านของ แม่น้ำดานูบ โดยผ่านรัฐโลว์เออร์ออสเตรีย หรือ นีเดอเริสเทอร์ไรค์และ รัฐอัปเปอร์ออสเตรีย หรือ โอเบอเริสเทอร์ไรค์ เพื่อไหลต่อไปยังสาธารณรัฐเช็ก ภูมิประเทศของประเทศออสเตรีย ถูกแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะคือ ภูเขา ทะเลสาบและแม่น้ำ
ภูมิอากาศของประเทศออสเตรียมีความแตกต่างกันตามระดับความสูงต่ำของพื้นที่และได้รับอิทธิพลจากภาคพื้นทวีป มหาสมุทรแอตแลนติกรวมถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและกระแสลมบางกระแสจากท้องถิ่น ซึ่งประเทศออสเตรียมี 4 ฤดู โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ระหว่าง 6.7-8.9 องศาฯ เวลาของประเทศออสเตรีย ในฤดูร้อน จะเดินช้ากว่าเวลาในประเทศไทย 5 ชั่วโมง ส่วนฤดูหนาว เวลาจะเดินช้ากว่าเวลาใน ประเทศไทย 6 ชั่วโมง
สินค้าและของฝากจากออสเตรีย เป็นของฝากจากประเทศออสเตรีย มีหลากหลายอย่างให้เลือกซื้อหา ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทาง มาเที่ยวที่นี่ ต่างก็ได้ของที่ระลึกกลับไปฝากคนที่บ้านมากมาย ซึ่งของฝากส่วนใหญ่จะเป็นงานแฮนด์เมด และสินค้าพื้นเมืองที่น่าสนใจ อย่าง ศิลปหัตถกรรมแบบออสเตรียนมีเสน่ห์เฉพาะตัว ซึ่งสามารถหาของฝากหลากหลายชนิดได้
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายตามประเพณีหรือเครื่องประดับ , ผ้าปักจากฟอราลแบร์ก หรือผ้าขนสัตว์จากซาลสบูร์กและทิโรล , ช็อกโกแลตโมสาร์ตของแท้จากซาลสบูรก์, น้ำมันฟักทอง ,งานเซรามิกและพอร์ซเลน ,เครื่องแก้วและคริสตัล ( สวารอฟสกี้/ทิโรล ) ,ไม้แกะสลัก ฯลฯ แบร์นชไทน์ ( บูร์เก็นลันด์ ) เป็นแห่งเดียวในโลกที่มีเซอร์เพนไทน์คือ หินสีเขียวที่มีค่าชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับทำเครื่องประดับและของตกแต่ง
ที่เที่ยวออสเตรีย “ซาลซ์บูร์ก” บ้านเกิดโมซาร์ท เสน่ห์เมืองมรดกโลก ทัศนียภาพสวยงาม
ใครที่ชอบดูหนังภาพยนตร์ อาจจะคงเคยดูเรื่อง The Sound of Music ภาพยนตร์สุดคลาสสิกชื่อดัง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ คือที่ ซาลซ์บูร์ก Salzburg เมืองสวยแห่ง ประเทศออสเตรียดินแดนโรแมนติกใจกลางยุโรป ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของ โมซาร์ท (Mozart) คีตกวีเอกของโลก แถมยังเป็นเมืองแห่ง มรดกโลก ด้วยเสน่ห์ของสถาปัตกยกรรม วัฒนธรรม และทิวทัศน์ที่งดงามของ เทือกเขาแอลป์ และ แม่น้ำซาลส์ซักค์
ซึ่งทำให้เมืองซาลซ์บูร์กแห่งนี้ กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวในฝันที่คนทั่วโลกอยากจะไปเยือนสักครั้งในชีวิต เมืองซาลซ์บูร์ก หรือ ซาลซ์เบิร์ก (Salzburg) คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 4 ของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ในรัฐซาลซ์บูร์ก บริเวณเชิงเขาทางทิศตะวันออกของ เทือกเขาแอลป์ ชื่อของเมืองซาลซ์บูร์กมาจากภาษาเยอรมัน แปลว่า “ปราสาทเกลือ” เนื่องจากเมืองแห่งนี้เป็นแหล่งค้าขายเกลือมาตั้งแต่ในอดีต
ทำให้ที่นี่เป็นเมืองอันมั่งคั่งและเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรมแบบบาโรก (Barogue) ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ในสภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด รวมถึงเป็นบ้านเกิดของ วูฟกังก์ อมาเดอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) คีตกวีเอกชื่อดังแห่งประวัติศาสตร์โลก จึงทำให้เมืองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1997
แม้ ที่เที่ยวออสเตรีย จะมีความโดดเด่นในเรื่องของวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า แต่ทัศนียภาพของธรรมชาติก็ไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะกับเทือกเขาแอลป์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ทางด้านหลัง และ แม่น้ำซาลซัค (Salzach River) ที่ไหลลัดเลาะผ่านเมือง ทำให้เมืองซาลซ์บูร์กเปี่ยมไปด้วยความงดงามของธรรมชาติที่ผสมกลมกลืนกับสถาปัตยกรรมเก่าแก่ได้เป็นอย่างดี และเสน่ห์เหล่านี้เองที่ทำให้เมืองแห่งนี้ได้เป็นสถานที่ถ่ายทำหลักของภาพยนตร์ The Sound of Music (1965)
สำหรับไฮไลท์ของเมืองซาลซ์บูร์ก เริ่มที่แรกด้วย สวนมิราเบล (Mirabell Garden) สวนสาธารณะสไตล์บาโรกที่สวยที่สวยที่สุดในเมือง เดิมเป็นสวนของ พระราชวังมิราเบล (Mirabell Palace) ดินเล่นในสวนมิราเบล เราจะมองเห็น ปราสาทโฮเฮนซาลซ์บรุค (Hohensalzburg) ที่ตั้งเด่นอยู่บนเนินเขา ด้านหลัง ป้อมปราการเมืองซาลส์บรุค (Festung Hohensalzburg) เป็นปราสาทแห่งยุคกลางอายุกว่า 500 ปีที่ใหญ่และสภาพสมบูรณ์ที่สุดในยุโรป
ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่และประวัติศาสตร์ของปราสาทและเมืองแห่งนี้นั่นเอง
เมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ “เวียนนา” เสน่ห์ดินแดนแห่ง เทือกเขาแอลป์
เมื่อกล่าวถึง ที่เที่ยวออสเตรีย แน่นอนว่าไม่พูดถึงเมืองนี้ไม่ได้ นั่นก็คือ เวียนนา (Vienna) เมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เมืองสวยที่เต็มไปด้วยสถานที่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ซึ่ง เวียนนา ยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของออสเตรียอีกด้วย ยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของออสเตรียอีกด้วย
เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนให้ได้สักครั้ง กรุงเวียนนา หรือตามภาษาท้องถิ่นเรียก “กรุงเวียน” ตั้งอยู่ตอนกลางของทวีปยุโรป ซึ่งครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ กรุงเวียนนา เป็นเพียงนครสำหรับชนชั้นขุนนางและบรรดาเจ้านายชั้นสูงเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน เวียนนา ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ ของออสเตรีย มีประชากรมากที่สุดของประเทศกว่า 1.9 ล้านคนมากที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของสหภาพยุโรป ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็น “เมืองแห่งศิลปะและดนตรี”
เนื่องจากนักแต่งเพลงคลาสสิกชื่อก้องโลกอาทิ บีโธเฟ่น, โมสาร์ท หรือ โยฮัน สเตราส์ ล้วนมาจากเมืองแห่งนี้ ส่วนเหตุผลที่ทำไมกรุงเวียนนา จึงเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก? ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกครั้งที่ เวียนนา เมืองหลวง ออสเตรีย ครองแชมป์อันดับ 1 เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก หลังเคยครองตำแหน่งเมื่อปี 2561 และ 2562 โดยโพลดังกล่าวมาจากการสำรวจโดยเว็บไซต์นิตยสารดิจิทัล The Economist (ดิ อีโคโนมิสต์)
ซึ่งโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ตามหลังเวียนนามาเป็นอันดับสอง ตามมาด้วยซูริก (Zurich) ในอันดับที่สามร่วมกับเมือง Calgary (คัลการี) ในแคนาดาโดยเกณฑ์การให้คะแนนว่าเป็นเมืองน่าอยู่หรือไม่นั้น มาจากการประเมินข้อมูลของเมืองทั่วโลกถึง 140 แห่ง โดยพิจารณาจาก ปัจจัยเชิงคุณภาพ ความมั่นคงทางวัฒนธรรม สภาพแวดล้อม รวมถึงการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข
ปักหมุด 6 ที่เที่ยวในกรุงเวียนนา ที่เที่ยวออสเตรีย ที่จะไม่มาไม่ได้ หากได้มาเยือนสักครั้งหนึ่ง
เวียนนา มีที่เที่ยวมากมายรอให้นักท่องเที่ยวได้มาเยือน เพราะว่าที่นี่ถือเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของ ประเทศออสเตรียดินแดนโรแมนติกใจกลางยุโรป โดยที่คุณจะสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และนี่คือที่เที่ยวเวียนนา ที่ต้องปักหมุดไว้เลยว่าถ้ามีโอกาสได้มาเยือนที่ ประเทศออสเตรีย บอกเลยว่าต้องไปให้ได้สักครั้ง
1. พระราชวังเชินบรุนน์
เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กหนึ่งที่สำคัญของกรุงเวียนนา ที่นี่คือก็คือ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace) พระราชวังสีเหลืองอันโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบรอคโคโค (Rococo) ที่ในอดีตเคยเป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับสเบิร์กแห่งออสเตรีย โดยคำว่า “เชินบรุนน์” หมายถึง น้ำพุอันสวยงาม สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยพระเจ้าโจเซฟที่ 1 ซึ่งเป็นการสร้างตามแบบพระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส
บริเวณด้านในตกแต่งอย่างวิจิตร งดงาม โดยปราสาทแห่งนี้มีห้องทั้งหมด 1,441 ห้อง แต่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมเพียง 40 ห้อง เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชมบริเวณด้านในพระราชวังเริ่มต้นที่ 22 ยูโร (791 บาท) เข้าชมได้ 22 ห้อง และถ้าเพิ่มเป็น 26 ยูโร (935 บาท) ก็จะสามารถเข้าชมพระราชวังได้ 40 ห้อง และบริเวณโดยรอบพระราชวังเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ สีสันมากมายกันไปตามสไตล์อังกฤษ ซึ่งเป็นที่ตั้งของลานน้ำพุ Sun Fountain เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 6.30 – 20.00 น.
2. หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย
หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Library) หอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรียที่มีหนังสือกว่า 200,000 เล่ม ที่มีทั้งหนังสือหายาก จดหมายเหตุ ไปจนถึงคัมภีร์ไบเบิลตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ที่ล้วนแล้วแต่มีคุณค่าทางประวัติศาตร์ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอาทิ “พิพิธภัณฑ์ปาปิรัส” เดินชมม้วนกระดาษโบราณที่คาดว่าอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 15 ก่อนคริสตกาล “พิพิธภัณฑ์ภาษาโลก” ที่ให้คุณได้เรียนรู้ภาษาสากลผ่านเอกสารการทดลองทางภาษาศาสตร์
ชมลูกโลกหลายร้อยลูก ทั้งลูกโลกบนท้องฟ้า แบบจำลองดวงจันทร์และดาวเคราะห์ต่าง ๆ ได้ที่ “พิพิธภัณฑ์ลูกโลก” เป็นต้น หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย ตั้งอยู่ภายในพระราชวังฮอฟบวร์ก เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. ยกเว้นวันพฤหัสบดีที่เปิดให้บริการถึงเวลา 21.00 น.
3. มหาวิหารเซนต์สตีเฟน
หนึ่งในความมหัศจรรย์ของกรุงเวียนนา มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen’s Cathedral) โบสถ์อันยิ่งใหญ่ตระการตาตามสไตล์โกธิคสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1147 ซึ่งมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นนั่นก็คือยอดปลายแหลม มหาวิหารแห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พำนักของอาร์ชบิชอปแห่งกรุงเวียนนา มหาวิหารแห่งนี้ถูกขนานนามว่าเป็นการนำความเป็นศิลปะ และ ศาสนา มาผสมกันอย่างลงตัว ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของ ประเทศออสเตรียดินแดนโรแมนติกใจกลางยุโรป
ไฮไลท์ที่ควรพลาดนั่นก็คือรูปบูชาของ Maria Pötsch ในศตวรรษที่ 17 ที่ถูกกล่าวขานกันว่าราวกับคนกำลังหลั่งน้ำตาอยู่จริง ๆ รวมถึง ธรรมมาสน์ในสไตล์โกธิคที่ถูกแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง เป็นต้น มหาวิหารเซนต์สตีเฟน เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์ – เสาร์ ตั้งแต่เวลา 6.00 – 22.00 น. วันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ จะเปิดให้เข้าชมเวลา 7.00 – 22.00 น เข้าชมได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ยกเว้นว่าจะเข้าไปชมหอคอย ที่จะเก็บค่าเข้าชมเพียงเล็กน้อย
4. พระราชวังฮอฟบวร์ก
พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) พระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา ที่มีอายุมากกว่า 600 ปี ในอดีตเป็นที่พักของ ราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ทุกพระองค์ในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่พระองค์แรกจนถึงพระองค์สุดท้าย ภายในตกแต่งด้วยสไตล์บาโรกที่สวยงามตระการตาประกอบด้วยปีกอาคารกว่า 18 ส่วนและห้องมากกว่า 2,000 ห้อง ซึ่งมีทั้งห้องจัดแสดงเครื่องประดับล้ำค่าของพระคลังสมบัติหลวงที่งดงามและหรูหรา รวมถึงศิลปะและสถาปัตยกรรมต่าง ๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ถ้ามาเยือนออสเตรีย
สิ่งที่ควรเตรียมก่อนการเดินทางไปประเทศออสเตรีย
สำหรับการเลือกเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศ ออสเตรีย นั้น นักท่องเที่ยวควรเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทาง เลือกเสื้อผ้าที่ซักแห้งง่ายไม่ยับและไม่ต้องรีด รองเท้าที่ใส่สบายไม่บีบเท้า ถุงเท้า รวมถึงเสื้อกันหนาว และแน่นอนว่าอย่าลืมยาสามัญประจำบ้านอย่าง ยาแก้แพ้ แก้หวัด ยาแก้ไข้ และหากเป็นโรคประจำตัวก็ควรนำติดตัวไปด้วย
ถึงแม้ว่าประเทศนี้จะมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน แต่ด้วยสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่ถูกออกกแบบมา เพื่อความโดดเด่น ทั้งอารยธรรม และวิถีชาวพื้นเมือง ทำให้ออสเตรียดูเป็นเมืองใหม่และตามอาคารต่าง ๆ มีรายละเอียดของศิลปะแต่ละยุคสมัย ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันถึงความเก่าแก่ของเมืองได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองออสเตรียที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาสัมผัสด้วยตัวเอง
ติดตามเว็บไซต์น่าสนใจเพิ่มเติม : อนิเมะ
อ่านบทความเพิ่มเติม > บราซิล